page91
เทียนขาว งานวิจัยและสรรพคุณ 23 ข้อ
ชื่อสมุนไพร เทียนขาว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ยี่หว่า, เมล็ดยี่หร่า (ทั่วไป)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cuminum cyminum Linn.
ชื่อสามัญ Cumin, Cummin
วงศ์ APIACEAE -UMBELLIFERAE
ถิ่นกำเนิดเทียนขาว
เทียนขาวมีถิ่นกำเนิดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มาถึงประเทศอินเดีย และยังพบในประเทศจีน ในบางมลฑล สำหรับในประเทศไทยยังไม่พบข้อมูลว่ามีการปลูกเทียนขาว เพื่อใช้ประโยชน์ หรือ ปลูกในเชิงพาณิชย์ โดยส่วนมากแล้วมักจะนิยมนำเข้ามาจากต่างประเทศมากกว่า ทั้งนี้เทียนขาว มีชื่อเรียกภาษาไทยอีกชื่อหนึ่งว่า ยี่หร่า หรือ เมล็ดยี่หร่า แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกันกับยี่หร่า (Ocimum gratissimum Linn) ที่เราใช้ใบเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารแต่อย่างใด
ประโยชน์และสรรพคุณเทียนขาว
ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญ
ทำให้ร่างกายสามารถรับสารอาหารได้ง่ายขึ้น
ช่วยเพิ่ม Hemoglobin ในเลือดทำให้ร่างกายมีความอดทนในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
ใช้ขับผายลมในเด็ก
เป็นยาหอมขับลมในลำไส้
ช่วยบำรุงธาตุ
แก้ดีพิการ
ขับเสมหะ
แก้นิ่ว
ขับระดูขาว
แก้ปวดมวน ไซร้ท้อง (ผสมกับยาระบาย)
แก้ท้องเสีย
รักษาอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต
แก้ลมวิงเวียน
แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน
แก้ลมจุกแน่นในท้อง
รักษาอาการทางระบบทางเดินอาหาร
บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย
บรรเทาอาการปวดท้อง
ช่วยขับลม
แก้อาเจียน
แก้ธาตุไม่ปกติ
บำรุงโลหิต
เทียนขาว (เมล็ด) สามารถนำไปแปรรูปทำให้แห้ง เพื่อใช้ทำเป็นเครื่องเทศได้ โดยนำไปใช้ใส่แกงพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แกงป่า มัสมั่น หรือ แกงกะหรี่ เป็นต้น และมีการใช้น้ำมันระเหยง่ายของเมล็ดเทียนขาว เรียกว่าน้ำมันยี่หร่า (cumin oil) ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอม น้ำหอม เครื่องดื่มและยาขับลมอีกด้วย
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
เทียนขาว เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ตามตำรายาไทยมาตั้งแต่โบราณแล้ว และโดยส่วนมากมักจะไม่นิยมนำมาใช้เป็นตัวยาเดี่ยว แต่มักจะใช้เป็นตัวยาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น ยาหอมเทพจิต, ยาหอมนวโกฐ, ยาธาตุบรรจบ, ยาประสะกานพลู, พิกัดเทียนต่างๆ, เพื่อช่วยแก้ลมวิงเวียน แก้อาเจียน แก้ลม แก้จุกเสียด ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยขับลม บำรุงโลหิต เป็นต้น โดยมีขนาดการใช้ของยาตำรับต่างๆ ที่กล่าวมาต่างๆ กันไปตามตำรับนั้นๆ (แต่โดยส่วนมากจะใช้ในขนาด 0.5-2 กรัม)
ลักษณะทั่วไปของเทียนขาว
เทียนขาวจัดเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีอายุปีเดียว มีกลิ่นหอม ลักษณะของลำต้นตรงสีเขียว มีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยมักจะแตกกิ่งก้านสาขาอยู่ตอนบน ใบเป็นใบเดี่ยว มีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ ออกสลับกัน ใบที่โคนต้นเป็นรูปไข่เมื่อดูแนวรูปใบ โดยรวมยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ขอบใบหยักลึกถึงเส้นกลาง มีลักษณะเป็นแฉก 2-3 แฉก แต่ละแฉกจะเล็กคล้ายเส้นด้าย มีความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร โดนก้านใบแผ่เป็นกาบ ดอกออกเป็นช่อแบบซี่ร่มหลายชั้น ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีกลีบเลี้ยงเล็กมากถึงไม่มี มีกลีบดอก 5 กลีบ สีขาว หรือ สีชมพู โดยดอกจะมีกลิ่นหอมและมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ติดอยู่กับฐานดอก เรียงสลับกับกลีบดอก ส่วนเกสรตัวเมียจะสั้น รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มีอยู่ 2 ห้อง แต่ละห้องจะมี 1 เมล็ด ผลเป็นผลแห้ง รูปยาวรีสีน้ำตาลมีลักษณะเหมือนเมล็ดข้าวเปลือกแต่มีขนาดเล็กกว่าโดย มีขนาดกว้างประมาณ 1.3-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 4.5-6.7 มิลลิเมตร เปลือกมีขนสั้นแข็งปกคลุม เมื่อผลแก่จะแตกเป็น 2 ซึก โดยแต่ละซีกจะมีเมล็ด 1 เมล็ด ซีกผลจะมีลักษณะด้านนอกนูน ส่วนด้านในที่ประกบกัน หรือ ด้านแนวเชื่อมจะมีลักษณะเว้า ส่วนเมล็ดจะมีกลิ่นหอม น้ำมันจากเมล็ดจะมีรสชาติเผ็ดร้อนและมีรสขม
เทียนขาว
เมล็ดเทียนขาว
การขยายพันธุ์เทียนขาว
เทียนขาว สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด โดยมีวิธีการปลูกดังนี้ การเตรียมดินควรทำการไถดินและตากดินให้แห้งประมาณ 10 วัน จากนั้นทำการไถพรวนดินอีกครั้งหนึ่งแล้วใส่ปุ๋ยคอกลงไปเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ส่วนวิธีการปลูก มี 2 วิธี คือ
หว่านเมล็ดพันธุ์ที่จะใช้ปลูกให้ทั่วแปลแล้วรดน้ำให้ชุ่ม
ขุด หรือ ใช้ไม้จิ้มให้ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วหยอดเมล็ดพันธุ์ลงไปโดยให้มีระยะห่าง 15x15 เซนติเมตร จากนั้นจึงรดน้ำให้ชุ่มทั่วแปลง สำหรับระยะเวลาในการปลูก หลังจากการปลูกประมาณ 60-70 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมาใช้ได้
องค์ประกอบทางเคมี
ในน้ำมันยี่หร่า หรือ น้ำมันเทียนขาว (cumin oil) ประกอบด้วยน้ำมันระเหยง่าย ซึ่งมี cuminaldehyde 25-35% เป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากนี้ยังพบสารเทอร์ปีนชนิดอื่นๆ ได้แก่ pinene dipentine cumene cuminic-alcohol cuminic aldehyde, cuminal, safranal, p-cymene, dipentine, cumene, cuminic alcohol, alpha-phellandrene, beta-phellandrene, alpha และ beta-pinene, delta-3-carene, 1,8-cineole, limonene, alpha และ gamma-terpinene, alpha-terpineol, terpinene-4-ol cuminyl alcohol, trans-dihydrocarvone, myrcene, linalool, beta-caryophyllene, beta-farnesene, beta-elemene
สารกลุ่ม glycosides: monoterpenoid glucosides (p-menthane glucoside, hydroxycuminyl glucoside), sesquiterpenoid glucosides (cuminosides A และ B), alkyl glycosides (1S,5S,6S,10S)-10-hydroxyguaia-3,7(11)-dien-12,6-olide beta-D-glucopyranoside, (1R,5R,6S,7S,9S,10R,11R)-1,9-dihydroxyeudesm-3-en-12,6-olide 9-O-beta-D-glucopyranoside, methyl beta-D-apiofuranosyl-(1 to 6) -beta-D- glucopyranoside, ethane-1,2-diol 1-O-beta-D-apiofuranosyl-(1 to 6)-beta-D-glucopyranoside และสาร 2-C-methyl-D-erythritol glycosides
สารกลุ่ม flavonoids: (อนุพันธ์ 7-O-beta-D-glucopyranosides ของ apigenin และ luteolin), flavonoid glycoside (3’-5,dihydroxyflavone 7-O-beta-D-galacturonide 4’-O-beta-D-glucopyranoside)
ส่วนสารสกัดเมทานอลจากผล พบ Sesquiterpenoid glucoside คือ Cuminoside A, B
นอกจากนี้เทียนขาว (ส่วนที่เป็นเมล็ด) ยังมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
คุณค่าทางโภชนาการของเทียนขาว (Cumin seed) ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 375 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 44.24 กรัม
น้ำตาล 2.25 กรัม
เส้นใย 10.5 กรัม
ไขมัน 22.27 กรัม
กรดไขมันอิ่มตัว 1.535 กรัม
โปรตีน 17.81 กรัม
น้ำ 8.06 กรัม
วิตามินเอ 64 ไมโครกรัม
วิตามินบี 2 0.327 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 4.579 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 0.435 มิลลิกรัม
วิตามินบี 9 10 ไมโครกรัม
วิตามินบี 12 0 ไมโครกรัม
วิตามินซี 7.7 มิลลิกรัม
วิตามินอี 3.33 มิลลิกรัม
วิตามินเค 5.4 ไมโครกรัม
ธาตุแคลเซียม 931 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 66.36 มิลลิกรัม
ธาตุแมกนีเซียม 366 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 499 มิลลิกรัม
ธาตุโพแทสเซียม 1,788 มิลลิกรัม
ธาตุโซเดียม 168 มิลลิกรัม
ธาตุสังกะสี 4.8 มิลลิกรัม
รูปภาพองค์ประกอบทางเคมีของเทียนขาว
โครงสร้างเทียนขาว
ที่มา : Wikipedia
การศึกษาทางเภสัชวิทยาของเทียนขาว
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลองของน้ำมันระเหยง่ายจากเมล็ดเทียนขาว ในการจับอนุมูลอิสระด้วยวิธีทางเคมี โดยใช้อนุมูลอิสระ DPPH เปรียบเทียบกับสารมาตรฐาน BHT ซึ่งเป็นสารกันเสียสังเคราะห์ ผลการทดลองพบว่าน้ำมันระเหยง่ายจากเทียนขาว และ BHT สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระ โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 31และ 11.5 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ ความสามารถในการจับอนุมูล superoxide (อนุมูลอิสระของออกซิเจน ที่เกิดจากขบวนการต่างๆ ในร่างกาย) ของเทียนขาว และ BHT มีค่า IC50 เท่ากับ 16 และ 1.5 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ ความสามารถในการรีดิวส์ (Reducing power) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ ของเทียนขาว และ BHT มีค่า EC50 เท่ากับ 11 และ 75 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ นอกจากนี้ยังทำการทดสอบฤทธิ์ป้องกันการเกิดออกซิเดชันของไขมัน โดยใช้เทคนิค beta-carotene bleaching พบว่าน้ำมันระเหยง่ายจากเมล็ดเทียนขาว และสารมาตรฐาน BHT สามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชันของกรดไขมัน โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 20 และ 75 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร
ฤทธิ์ต้านเบาหวาน สาร cuminaldehyde และ cuminol ซึ่งแยกได้จากสารสกัดปิโตรเลียมอีเธอร์ของเมล็ดเทียนขาว (Cuminum cyminum) มีฤทธิ์ต้านเบาหวานเมื่อทำการทดสอบในหนูแรกที่เหนี่ยวนำให้เกิดเบาหวานด้วยสาร streptozotocin โดยพบว่าสาร cuminaldehyde และสาร cuminol ที่ขนาด 25 มก./มล. สามารถเพิ่มการหลั่งอินซูลิน ด้วยกลไกในการปิดกั้น ATP-sensitive K (K+-ATP) channel และการเพิ่ม Ca2+ ภายในเซลล์ โดยกลไกดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนเกินไป และไม่ทำให้เบต้าเซลล์ (β-cell) ถูกใช้จนหมด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาภาวะเบาหวานในระยะยาว
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย การศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่พบที่กระเพาะอาหาร เป็นเชื้อที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการท้องอืดเฟ้อ แผลในกระเพาะอาหาร ทดสอบโดยใช้สารสกัดเอทานอล หรือ สารสกัดน้ำของเทียนขาว ใช้เทคนิค disc diffusion test และวัดค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งเชื้อ (MIC) ผลการทดลองพบว่าสารสกัดเอทานอลของเทียนขาวมีค่า MIC90 เท่ากับ 0.075 mg/mLซึ่งแสดงว่าสารสกัดมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อ H. pylori ในหลอดทดลอง
การศึกษาฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย Vibrio sp. ซึ่งเป็นแบคทีเรียแกรมลบ ที่ก่อโรคอาหารเป็นพิษ หรือ ทางเดินอาหารอักเสบ ทดสอบน้ำมันระเหยง่ายจากเมล็ดเทียนขาว และทำการศึกษาปริมาณสารสำคัญโดยใช้เทคนิค GC-MS พบองค์ประกอบหลัก คือ cuminlaldehyde (39.48%), gamma-terpinene (15.21%), O-cymene (11.82%), beta-pinene (11.13%), 2-caren-10-al (7.93%), trans-carveol (4.49%) และ myrtenal (3.5%) และทำการทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียโดยใช้ เทคนิค micro-well พบว่าน้ำมันระเหยง่ายจากเมล็ดเทียนขาวมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียกลุ่มVibrio spp.โดยมีค่าความเข้มข้นต่ำสุดในการยับยั้งเชื้อ (MIC) เท่ากับ 0.078–0.31 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร และค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถฆ่าเชื้อ (MBC) เท่ากับ 0.31–1.25 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
ฤทธิ์ลดความดันโลหิตสูง สารสกัดน้ำของเมล็ดเทียนขาว (Cuminum cyminum ) มีฤทธิ์ต้านภาวะความดันโลหิตสูง เมื่อทดสอบในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงด้วยวิธี two-kidney one-clip (2K/1C) โดยให้หนูกินสารสกัดในขนาด 200 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. เป็นเวลา 9 สัปดาห์ พบว่าสารกัดสามารถยับยั้งการลดลงของ nitric oxide และทำให้ความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว (systolic blood pressure; SBP) ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้การแสดงออกของยีน endothelial nitric-oxide synthase (eNOS), Bcl-2, thioredoxin 1 (TRX1) และ thioredoxin reductase 1 (TRXR1) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ลดการแสดงออกของยีน Bax, tumor necrosis factor α (TNF-α) และ interleukin 6 (IL-6) ลดลงด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมล็ดเทียนขาวสามารถส่งเสริมการทำงานของเนื้อเยื่อ endothelial และยับยั้งสารก่อการอักเสบรวมทั้งยับยั้งภาวะ oxidative stress ในหนูแรทที่มีภาวะของความดันโลหิตสูงได้
ฤทธิ์เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร การศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดชนิดต่างๆ จากเมล็ดเทียนขาว ในการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหาร โดยการสกัดสารสำคัญจากเทียนขาว ได้สารสกัดทั้งสิ้น 4 ชนิด ได้แก่ saline extract (0.5N HCl), hot aqueous extract (สารสกัดด้วยน้ำร้อน), oleoresin (สกัดด้วยอะซิโตน) และ น้ำมันหอมระเหยทำการทดสอบฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ amylase, protease, lipase และ phytase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยแป้ง, โปรตีน, ไขมัน และไฟเตต ตามลำดับ (ไฟเตตพบในพืชผัก ร่างกายต้องใช้ไฟเตสย่อยให้กลายเป็นฟอสเฟตก่อนดูดซึม) ผลการทดลองพบว่าสารสกัดในส่วน saline extracts และ hot aqueous extracts แสดงฤทธิ์สูงสุดในการเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ทั้ง 4 ชนิด โดย hot aqueous extracts สามารถเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ amylase, protease, lipase และ phytase ได้เท่ากับ 300± 63, 7250±331, 37.15±5,196± 20 U/mg protein/g cumin/min ตามลำดับ saline extracts สามารถเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ amylase, protease, lipase และ phytase ได้เท่ากับ 269±32, 8450± 380, 36.98 ±5, 150±15U/mg protein/g cumin/min ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ ได้เท่ากับ 4.0±0.1, 183.6±1.2, 2.94±0.5, 1.66± 0.5U/mg protein/g cumin/min ตามลำดับ ดังนั้นสารสกัดเทียนขาว อาจนำมาใช้ในสูตรอาหารต่างๆ เพื่อเพิ่มการย่อยอาหารได้
การศึกษาทางพิษวิทยาของเทียนขาว
การทดสอบพิษของผลเทียนขาว จากรายงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าการให้หนูถีบจักรกิน หรือ ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ในขนาด 10 กรัม/กิโลกรัม ซึ่งคิดเป็น 5,000 เท่า เมื่อเทียบกับขนาดการรักษาในคน ไม่พบอาการเป็นพิษ
การให้เทียนขาว 2% ในอาหารก็ไม่ก่อให้เกิดพิษในหนู แต่ในปริมาณ 10% จะทำให้การเจริญเติบโตผิดปกติและมีผลต่อตับและไต ส่วนการทดลองในหลอดทดลองพบว่าเทียนขาว ไม่ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์